ศึกษาพระคัมภีร์ หัวข้อ วิธีบริหารเงินทอง
พระธรรม ฉธบ 8.11-20 โดย อ.เรวัฒน์ เทพจักร์
www.Thaichristians.net email: info@thaichristians.net
พระธรรม ฉธบ 8.11-20 โดย อ.เรวัฒน์ เทพจักร์
www.Thaichristians.net email: info@thaichristians.net
บทนำ พระเจ้าทรงประทานเงินทองเพื่อเรา ไม่ว่าจะโดยผ่านการทำงานอะไร หรือมีทุนสะสม หรือมีผู้สนับสนุนเป็นประจำ เงินทองอยู่ในอำนาจของเรา ในการบริหารและจัดการ คนที่รู้จักจัดการ และบริหารเงินทองดี ก็ได้รับพระพร หากจัดสรรไม่ถูกก็จะเป็นภัย เป็นทุกข์แก่ตนเอง และคนใกล้ชิด
กฎ 7 ประการกับการจัดงบส่วนตัว
หนึ่ง เราต้อง แยก รายรับส่วนหนึ่งไว้เพื่อ ถวายพระเจ้า
-เป็นการประกาศยอมรับว่า เงินทองเป็นของพระเจ้า ฮักกัย 2.8
-เราควรตั้งเป้าหมายไม่ยักยอกฉ้อโกง พระเจ้า และ ของๆผู้ใด มาลาค 3.8 ยอห์น 12.6
สอง เราต้อง แบ่ง รายได้ส่วนหนึ่งเพื่อ จ่ายให้แก่ รัฐบาล (ภาษี)
-เป็นการประกาศการเป็นพลเมือง โดยการเสียภาษี และไม่ค้าขายของหนีภาษี มัทธิว 22.21
-เราพยายามไม่เป็นภาระแก่ผู้อื่น 2ธส 3.8
-ตั้งใจหางานทำอาชีพสุจริตที่พระเจ้ายอมรับเท่านั้น ยอห์น 2.15-16 อสค 22.12
สาม เราต้อง จัดสรร รายได้ส่วนหนึ่งเพื่อ ความจำเป็นของครอบครัว
-เป็นการประกาศความรับผิดชอบต่อครัวเรือน 1ทธ 5.8
-อย่าสร้างนิสัยเป็นคนเห็นเงิน โลภอย่างได้ อยากมี ฮร 13.5
สี เราต้อง ตัด รายรับส่วนหนึ่งเพื่อ หนี้สิน
-เราไม่ควรกู้หนี้ยืมสิน เพราะทำให้เราตกเป็นทาส สุภาษิต 22.7
-เราต้องรีบชดใช้ ชำระหนี้สินให้หมดโดยเร็วที่สุด สดุดี 37.21
ห้า เราต้อง จัดเตรียม ส่วนหนึ่งเพื่อตอบสนองความจำเป็นของ ผู้อื่น
-เป็นการประกาศ / สำแดงความรัก และถวายเกียรติ 2 คร 11.7
-เป็นการประกาศ / สำแดงความรัก และถวายเกียรติ 2 คร 11.7
-เพื่อช่วยเหลือ บรรเทาทุกข์ผู้มีปัญหา โรม 15.26
หก เราต้อง สำรองทุน ส่วนหนึ่งของรายได้ของเราไว้เป็นทุนสำหรับ ฉุกเฉิน ของชีวิต
-เป็นการประกาศความพร้อมสำหรับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน สภษ 6.6-9
เช่น ยามเจ็บป่วย อุบัติเหตุ เรียนต่อ เพื่อที่อยู่อาศัย
เจ็ด หากยังมีเงินเหลืออยู่ เราก็อาจจะใช้เพื่อเป็น รางวัลชีวิต
-เป็นการประกาศการเฉลิมฉลอง ด้วยความขอบคุณพระเจ้า เอสรา 7.18
สรุป ให้เราตั้งเป้าว่าไม่ว่าจะมีมากหรือมีน้อย อย่าง ลก 21.4 และหากไม่มีจริงๆจงเป็นคน สัตย์ซื่อ ในเรื่องเงินและหน้าที่ความรับผิดชอบของตน กจ 3.6 เพราะถ้าเราสัตย์ซื่อในการจัดการเรื่องเงินทอง เราจะได้รับการไว้วางใจจากพระเจ้า และผู้อื่น มธ 25.21 และ ข้อ 23,29 จงเป็นคนมีชื่อเสียงดีโดยเฉพาะเรื่องเงินทอง สภษ 22.1
จงตั้งมาตรฐานขั้นต่ำไว้ว่า
-จะสัตย์ซื่อต่อพระเจ้าในเรื่องเงิน เวลา
-ตั้งเป้าว่าจะจัดการกับระแบบการเงินใหม่อย่างถูกต้อง จะไม่พยายามกู้หนี้ยมสินมาอีก โรม13 จะไม่พยายามให้
ใครยืมเงิน แต่ถ้าจะช่วยเหลือจะให้เปล่าๆ ไม่คิดดอกเบี้ย และจะให้ผ่านคริสตจักรเท่านั้น จะไม่ให้โดยตรง
การแบ่งเงินเป็นกองๆ
หันมาสร้างอิสรภาพทางการเงินกันดีกว่า ต้องคิดว่าในบั้นปลายของชีวิตเราต้องใช้ชีวิตอยู่คนเดียว ฉะนั้นเราควรจะคิดเตรียมเอาไว้ ยิ่งอยู่ตัวคนเดียว ยิ่งมีเวลามากกว่าคนมีครอบครัว ถ้าใช้เวลาไม่ถูกก็จะฟุ้งซ่านเปล่าๆ ใช้ชีวิตไม่ระมัดระวัง ใช้ชีวิตแบบประมาท กลายเป็นสร้างภาระเข้าไปอีก หนี้สินอาจจะเกิดได้' การแบ่งเงินสำหรับคนแบ่งเงินเป็น 4 กอง
โสด
- เงินก้อนที่ 1 ถวายสิบลดแด่พระเจ้า 10 %
- เงินก้อนที่ 2 ใช้จ่ายในปัจจุบัน ควรจะจัดสรร 50 % ของรายได้ในแต่ละเดือน
- เงินก้อนที่ 3 คือเงินที่เตรียมไว้สำหรับสถานการณ์ 'ฉุกเฉิน' ที่ควรจะเตรียมไว้ 10 % ของรายได้ในแต่ละเดือน
- เงินก้อนที่ 4 เงินที่เตรียมไว้สำหรับ 'อนาคต 30 % คือ
- เงินก้อนที่ 1 ถวายสิบลดแด่พระเจ้า 10 %
- เงินก้อนที่ 2 ใช้จ่ายในปัจจุบัน ควรจะจัดสรร 50 % ของรายได้ในแต่ละเดือน
- เงินก้อนที่ 3 คือเงินที่เตรียมไว้สำหรับสถานการณ์ 'ฉุกเฉิน' ที่ควรจะเตรียมไว้ 10 % ของรายได้ในแต่ละเดือน
- เงินก้อนที่ 4 เงินที่เตรียมไว้สำหรับ 'อนาคต 30 % คือ
มีครอบครัว
- เงินก้อนที่ 1 ถวายสิบลดแด่พระเจ้า 10 %
- เงินก้อนที่ 2 ใช้จ่ายในปัจจุบัน ควรจะจัดสรร 50 % ของรายได้ในแต่ละเดือน
- เงินก้อนที่ 3 คือเงินที่เตรียมไว้สำหรับสถานการณ์ 'ฉุกเฉิน' ที่ควรจะเตรียมไว้ 25% ของรายได้ในแต่ละเดือน
- เงินก้อนที่ 4 เงินที่เตรียมไว้สำหรับ 'อนาคต15 % คือ
- เงินก้อนที่ 2 ใช้จ่ายในปัจจุบัน ควรจะจัดสรร 50 % ของรายได้ในแต่ละเดือน
- เงินก้อนที่ 3 คือเงินที่เตรียมไว้สำหรับสถานการณ์ 'ฉุกเฉิน' ที่ควรจะเตรียมไว้ 25% ของรายได้ในแต่ละเดือน
- เงินก้อนที่ 4 เงินที่เตรียมไว้สำหรับ 'อนาคต15 % คือ
ออม-ลงทุนระยะยาวเพื่ออนาคต บนสมมติฐานที่ว่าในบั้นปลายของชีวิต คุณอาจจะต้องใช้ชีวิตเพียงลำพัง ไม่มีลูกหลานคอยดูแลเหมือนคนที่มีครอบครัว อัจฉราแนะว่าในแง่ของการออม และลงทุนจึงต้องมองหาช่องทางการลงทุนระยะยาวไว้เป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นการออมเงินผ่านประกัน ลงทุนในกองทุนหุ้นระยะยาว
'ต้องนึกไว้เสมอว่าไม่มีใครดูแลเรา เพราะฉะนั้นในแง่ของการลงทุนเราอาจจะต้องเน้นลงทุนระยะยาว ซื้อทั้งประกันชีวิต ประกันสุขภาพ และประกันทรัพย์สิน ขณะเดียวกันถ้าเป็นการลงทุนก็ควรจะเน้นลงทุนระยะยาว แต่มีส่วนหนึ่งฝากแบงก์ติดไว้บ้าง หรือไม่ก็ลงทุนในสลากออมสินระยะ 5-10 ปีไว้สักนิด'
ตัวเลขเศรษฐกิจของไทยเมื่อเร็วๆ นี้ ระบุว่าอัตราเงินเฟ้อหลักเฉพาะเดือน ส.ค. ปรับขึ้นสูงสุดในรอบ 7 ปี อยู่ที่ระดับ 5.6% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดือน ก.ค.ซึ่งอยู่ที่ระดับ 5.3% โดยตัวเลขที่เพิ่มขึ้นเป็นผลจากราคาสินค้ากลุ่มอาหารกับราคาน้ำมันปรับขึ้น
การบริหารเงินออมคืออะไร
คือการจัดสรรรายได้มาเพื่อเป็นเงินออม และนำเงินออมเหล่านั้นมาสร้างผลตอบแทนให้กับตนเอง
อีกทั้งยังเป็นหลักประกันให้กับอนาคตขอบตนเองและครอบครัว เช่น อาจใช้เป็นค่ารักษาพยาบาล
หรือเป็นทุนการศึกษา และหากมีการจัดสรรเงินออมได้อย่างเหมาะสมแล้ว
เงินออมเหล่านั้นจะสามารถเพิ่มผลตอบแทนได้ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เช่น การฝากเงินกับธนาคาร
การทำประกันชีวิต ตลอดจนการลงทุนในกองทุนรวมต่าง ๆ
7 วิธีมีเงินออม
1. กำหนดเป้าหมายการเก็บออม
( แต่ละเดือน แต่ละปี จะมีเงินออมเท่าไร)
2. กำหนดเป้าหมายการใช้จ่าย
( แต่ละวัน แต่ละเดือนจะมีเงินเท่าไร เมื่อไรต้องใช้เงินก้อนใหญ่)
3. ประหยัดรายจ่าย
(จ่ายน้อยกว่าหรือเท่ากับเป้าหมายการใช้จ่ายที่ตั้งไว้ เพื่อให้มีเงินเหลือมากขึ้น)
4. จ่ายคุ้มค่า
(จ่ายเท่าเดิมแต่ได้ประโยชน์มากขึ้น)
5. ใช้เท่าที่จำเป็น
(น้ำประปา ไฟฟ้า โทรศัพท์มือถือ)
6. พึงระวังค่าใช้จ่ายที่มักจะนึกไม่ถึง
( ค่าธรรมเนียมรายเดือน รายปี ค่าภาษี ค่าดอกเบี้ยบัตรเครดิต ค่าปรับจ่ายหนี้ช้า)
7. ไม่ก่อหนี้โดยไม่จำเป็นและเกินกำลัง
5 ข้อก่อร่าง สร้างตัว
1. วางแผนให้ดี ทำบัญชีเป็นนิจ
ก่อนจะใช้จ่ายแต่ละเดือน ควรมีการวางแผนไว้ให้ดี เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ จะได้รู้ว่าเงินหมดไปกับอะไรบ้าง พร้อมทั้งฝึกจดจำและทำบัญชีให้เป็นนิสัย เพราะจะช่วยให้เราตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นออกไปได้
2. ต้องมีวินัย จิตใจเด็ดเดี่ยว
เมื่อคิดจะตั้งตัวก็ควรตั้งใจให้มั่น เช่น กำหนดไปเลยว่าจะแบ่งเงินส่วนหนึ่งไว้เพื่อเป็นเงินออมทุกเดือน ก็ควรทำให้ได้ทุกเดือน และต้องมีใจเด็ดเดี่ยวไม่เผลอไผลไปกับสิ่งฟุ้มเฟือย เมื่อทำได้ก็จะภาคภูมิใจกับเงินออมของตนที่ค่อย ๆ เพิ่มพูนขึ้นทีละน้อย
3. แม้เงินนิดเดียวก็ออมได้
อย่าท้อใจว่ามีเงินน้อย เพราะหากคุณมีเงินเพียงหนึ่งบาท ก็สามารถออมได้ ถ้าตั้งใจจริงและรู้จักใช้ รู้จักเก็บ ไม่นานเงินเพียงหนึ่งบาทก็ค่อย ๆ เพิ่มขึ้นเป็นหลักร้อยหลักพันในที่สุด
4. ค่อยเป็นค่อยไปอย่าใจร้อน
การออมเงินก็เหมือน การปลูกต้นไม้ จะให้โตภายในข้ามคืนคงเป็นไปไม่ได้ แต่ถ้าหมั่นรดน้ำ พรวนดิน ใส่ปุ๋ย ต้นกล้าที่เราเฝ้าเอาใจใส่ก็จะค่อย ๆ เติบโตจนออกผลให้เราเก็บกินได้อย่างภาคภูมิใจ
5. ยิ่งออมก่อน ยิ่งได้เปรียบ
การออมเงินเป็นเรื่องที่ต้องอาศัยระยะเวลา ดังนั้นเมื่อใครเริ่มออมได้ไว ยิ่งนานเท่าไร เงินออมที่เก็บไว้ยิ่งทวีค่าขึ้นตามระยะเวลา ดังนั้นเราควรเริ่มฝึกนิสัยให้รักการออมเสียตั้งแต่วันนี้ อย่าผลัดวันประกันพรุ่งยิ่งออมไวยิ่งได้เปรียบ
ลองตอบคำถามดังต่อไปนี้ เพื่อตรวจสอบนิสัยการใช้จ่ายเงินของคุณ และเพื่อช่วยให้คุณทราบสถานะการเงินของคุณว่า กำลังตกอยู่ในสถานการณ์เช่นใด ปลอดภัยดี หรือว่าอยู่ในขั้นอันตราย ที่คุณจะต้องควบคุมการใช้จ่ายของคุณอย่างเร่งด่วน
-คุณสามารถชำระเงินคืนบัตรเครดิตการ์ดได้เพียงจำนวนต่ำสุดเท่าที่ระบุเท่านั้นเอง ใช่หรือไม่
-คุณไม่แน่ใจว่าคุณเป็นหนี้ทั้งหมดอยู่เท่าไหร่
-คุณชำระเงินค่าใช้จ่ายประจำเดือนต่างๆ สายเสมอ
-บางครั้ง คุณจำเป็นต้องข้ามการชำระเงินให้กับเจ้าหนี้รายหนึ่งก่อน เพื่อนำเงินไปชำระให้กับเจ้าหนี้อีกราย
-คุณมีเงินสำรองยามฉุกเฉินไม่เพียงพอ
-ถ้าคุณตกงานในเวลานี้ คุณสามารถชำระเงินค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการดำรงชีพได้หรือไม่
-คุณได้รับโทรศัพท์หรือจดหมายเตือนให้ชำระเงินจากเจ้าหนี้เสมอ ใช่หรือไม่
-บัตรเครดิตการ์ดของคุณใกล้จะเต็มจำนวนวงเงินเครดิตแล้ว
-คุณยืมเงินจากเครดิตใบหนึ่งเพื่อนำไปชำระให้กับเครดิตการ์ดอีกใบ ใช่หรือไม่
-คุณเริ่มสัปดาห์ใหม่ด้วยเงินเต็มกระเปำสตางค์ และตอนปลายสัปดาห์เงินคุณหมด โดยคุณเองก็ไม่ทราบว่าหายไปไหน คุณจ่ายอะไรไปบ้าง ใช่หรือไม่
-บ่อยครั้งที่คุณเสียเงินซื้อของเพียงเพราะว่าคุณอยากซื้อเท่านั้น โดยไม่สนใจว่าจำเป็นหรือไม่
-คุณเคยถอนเงินออมยามเกษียณมาชำระค่าใช้จ่ายต่างๆในปัจจุบัน
-บางครั้งคุณต้องเลื่อนการไปหาหมอ หรือไปทำฟันเพราะว่าคุณไม่มีเงินชำระค่ารักษาพยาบาล
-คุณกำลังใช้จ่ายเงินจำนวนมากกว่าที่คุณหาได้ และ/หรือคุณไม่มีเงินเก็บ
ถ้าคุณตอบ ใช่ แม้แต่ข้อเดียวในคำถามเหล่านี้ คุณจำเป็นจะต้องควบคุมและ ระมัดระวังในการใช้จ่ายของคุณเสียแล้วล่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น