หน้าแรก

หน้าแรก      ผู้ดูแลเว็บ    ติดต่อเรา 

วันพฤหัสบดีที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2554

คำเทศนาเรื่อง ผ่านความยากลำบากโดยพระคุณ


คำเทศนาเรื่อง   ผ่านความยากลำบากโดยพระคุณ  
ข้อพระคัมภีร์       2 พกษ 6:24-33   7:1-2
โดย อจ.เรวัฒน์  เทพจักร์
คำนำ :   ชีวิตมนุษย์อยู่ในโลกใบนี้แม้จะเพียงสั้นๆ 70-80ปี   แต่ช่วงชีวิตนั้นมีแต่งานและความยากลำบาก  ไม่นานก็จากร่างกายนี้ไป  เพื่อรอการพิพากษาตัดสินโทษจากพระเจ้า   เราอยู่ในโลกนี้เต็มไปด้วยความกระวนกระวายใจ  เหนื่อยล้ากับงานที่ทำอยู่ และกังวลใจถึงชีวิตในวันข้างหน้า   เราทุกคนต้องการความมั่นคงในชีวิต และความอยู่รอดของตนเอง     แต่.... ความจริงนั้นวันนี้มนุษย์ถือว่ามีความเจริญแทบทุกด้าน
มีความเป็นอยู่ที่สะดวกสบายขึ้น  แต่เตียงนอนที่สวย มีบ้านที่ปลอดภัย มีอาหารทานทุกมื้อ มีการคมนาคมที่สะดวก มีการสื่อสารที่รวดเร็ว  แต่กระนั้นมนุษย์ก็ยังขาดสันติสุขที่แท้จริง  กำลังถูกติดตรวนด้วยความทุกข์ใจ ความไม่มั่นคง  ความกลัว ความกดดันต่างๆที่ก่อตัว   จนในที่สุดหลายคนไม่สามารถยอมรับความเป็นจริงในชีวิตได้  จึงต้องไปนอนอยู่ใน
โรงพยาบาลศรีธัญญา    มนุษย์อาศัยอยู่ในโลกนี้ที่มีข้อมูลข่าวสารที่รวดเร็วไว  - ข้อมูลเรื่องโรคภัยต่างๆ   จะมีโรคร้ายแรงระบาด
                              - ข้อมูลเรื่องภัยทางธรรมชาติ  จะเกิดสึนามิ  เกิดวิบัติทางธรรมชาติ  จะเกิดน้ำท่วมกรุงเทพ
                              - ข้อมูลเรื่องเศรษฐกิจที่ย่ำแย่  ค่าเงินบาท  ทองคำ น้ำมันเชื้อเพลิง 
                              - ข้อมูลเรื่อง อนาคตของโลกจะดับสูญ  โลกจะแตก  
             ตัวอย่าง :  ฮือฮา!  โรเบิร์ต ฟิตซ์แพทริค เฒ่าอเมริกันวัน 60 ปี ควักเงินส่วนตัวกว่า 4 ล้านบาท ทำป้ายโฆษณาเผยแพร่คำนายของตัวเอง ว่าโลกจะแตก ในวันที่ 21 พ.ค. นี้    ได้ยอมเอาเงินเก็บของตัวเองที่จะใช้ในช่วงบั้นปลายชีวิต จำนวน 140,000 เหรียญสหรัฐ  ให้กับประชาชนทั่วไปได้รับรู้ และเพื่อเป็นการเตือนให้มีการเตรียมพร้อมรับมือ   ได้ทำป้ายโฆษณากว่า 1,000 ชิ้น ติดไว้ตามสถานีรถไฟใต้ดิน และป้ายรถเมล์เพื่อเตือนประชาชนถึงวันสิ้นโลกในวันที่ 21 พ.ค. นี้ ตามคำทำนายของตนเอง    นอกจากนี้ ฟิตซ์แพทริค ได้ยืนยันว่า ในวันดังกล่าว จะเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ในช่วงเวลาประมาณ18.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นที่นิวยอร์กซึ่งจะเป็นแผ่นดินไหว ที่จะทำให้โลกถึงคราวแตกดับ และในวันดังกล่าว เป็นวันที่พระผู้เป็นเจ้าจะยุติการช่วยเหลือมนุษยชาติด้วย
มนุษย์อาศัยอยู่ในโลกของพระเจ้านี้ด้วยความกลัว ความหวั่นวิตก  ต่อสู้ดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด  และบ้างก็กำลังหมกมุ่นสาระวนกับระบบของโลกนี้  และสุดท้ายมนุษย์ทุกคนก็ดับสูญไปพร้อมๆกับความว่างเปล่า อนิจจังในชีวิต    เราถูกติดตรวนถูกขังด้วยข้อมูลข่าวสารต่างๆ ซึ่งไม่รู้ว่าอะไรจริงอะไรเท็จ  อะไรมาจากพระเจ้า หรืออะไรที่มาจากมนุษย์ อะไรที่มาจากซาตาน     ผลสุดท้ายทำให้เราเครียด เหนื่อยล้า และพบความยากลำบากต่างๆในชีวิต   เช่นเดียวกับชาวอิสราเอล  ดู 2 พกษ 6:24-33  
สภาพและปัญหาที่พวกเขาเผชิญความยากลำบากนั้นเป็นอย่างไร ?
1.เผชิญกับศัตรู และคู่แข่ง  6:24
   -อิสราเอลถือว่าเป็นชาติที่พระเจ้าเลือกสรรไว้พิเศษ ทรงสัญญาจะสถิตอวยพรสนับสนุนพวกเขา  แต่เพราะนิสัยที่ดื้อดึงต่อพระเจ้า พวกเขา
   จึงต้องพบกับการตีสอน การเฆียนตีอย่างแรงจากพระเจ้า    ทรงอนุญาตให้มีศัตรูมาโจมตี  มาตีล้อมเมืองสะมาเรียไว้  
   -ศัตรูและคู่แข่งมาปิดล้อมปิดกั้นทำให้ความเป็นอยู่ การงานติดขัด  เหมือนถูกปิดล้อมไว้ไปทางไหนก็ไม่ได้  ดิ้นไปทางไหนก็หมดทางออก
   คำถาม
:   บางคนอาจนั่งในที่นั่งเช่นนี้  ชีวิตพบความยากลำบาก  มีทุกข์เพราะถูกปิดกั้นกำลัง  คู่แข่งตัดหน้าไว้  และสะมาเรียฝ่าย
   วิญญาณถูกล้อม  จึงทำให้ชีวิตไปต่อไม่ได้ราบรื่น 
2.เผชิญกับการกันดารอาหาร แห้งแล้ง เศรษฐกิจย่ำแย่  ข้อ25
  - หัวลาตัวหนึ่งราคา 80เชเขล หรือเท่ากับ 900 กรัม  1000กรัมเท่ากับ 1เชเขล มีค่าเท่ากับ 20000 บาท  
    ผู้คนในสะมาเรียอดอยาก เศรษฐกิจตกต่ำสุดๆ ของแพง   
   เช่นเดียวกันวันนี้
: ข้าวของแพง  หลายประเทศได้รับผลจากภัยทางธรรมชาติ  จึงทำให้ผลผลิตเสียหาย 
3.ผู้คนเรียกร้องหาความยุติธรรม และหาหนทางออกให้กับชีวิต  ข้อ 26
  -หญิงคนหนึ่งเธอต้องลุยถึงเขตพระราชสถานเพื่อร้องขอความยุติธรรม เนื่องจากการกันดารอาหารหนักถึงต้องถูกหลอกให้เอาลูกของตนมา
   ฆ่ากินเป็นอาหาร  แต่ต่อมาเพื่อนของเธอก็ไม่ได้ทำตามสัญญาไว้ โดยอุ้มลูกหนี  เธอจึงมาร้อง   “ ขอทรงช่วย”   แต่พระราชก็กล่าวถ้าพระ
   เจ้าไม่ช่วย เราก็ช่วยเจ้าไม่ได้  
  ทำนองเดียวกัน
: ในวันนี้  หลายคนต้องยื่นอุทธรณ์เรียกร้องขอความยุติธรรมจากศาล  พี่และน้องก็เมินหน้าต่อกัน  ชิงชังและขัดแย้งกัน
4.ผู้คนเข้าใจผิดกัน และมุ่งทำร้ายซึ่งกันและกัน อยู่ท่ามกลางความโกรธ หวาดระแวงซึ่งกันและกัน
  -พระราชาก็เข้าใจผิดคิดว่าปัญหาหมดทั้งสิ้นนี้มาจาก เอลีชาผู้รับใช้พระเจ้าที่ปล่อยศัตรูไป  และหมายปองจ้องทำร้ายล้างกันเอง  ดำเนิน
   ชีวิตด้วยความโกรธแค้น  ตัวอย่าง
: บางคนยิงกันเพียงเพราะการขับรถปาดหน้ากันเท่านั้นเอง
สรุป
:    ทั้งหมดทั้งสิ้นนี้คืออาการของความยากลำบากต่างๆนานาที่มนุษย์กำลังเผชิญปัญหาในชีวิต  จึงสรุปว่ามนุษย์ดำเนินอยู่ในโลกนี้เต็มไปด้วยความกดดัน เผชิญกับแรงกดดัน  ต่อสู้กับสารพัดฤาโถมเข้ามา   จึงทำให้เราหมดแรงกำลังที่จะสู้ต่อไป  บางทีคิดถึงขั้นว่าการจากไปอยู่กับพระเจ้าก็ดีที่สุด  แต่ก็ยังไม่ถึงเวลาของพระเจ้า  ก็ต้องทนอยู่ในโลกใบนี้ด้วยความยากลำบากใจ  ด้วยน้ำตา ด้วยใจที่เหน็ดเหนื่อย ท้อล้าใจ อยากให้มีใครมาช่วยอุ้ม มาช่วยแบกภาระปัญหาให้   คำถาม : ทำอย่างไรที่เราลูกของพระเจ้าจะสามารถเดินผ่านเส้นทาง หรือชั่วโมงที่ยากในชีวิตเหล่านี้ได้   เราเห็นทางออกและแนวทางตามพระวจนะของพระเจ้า 3 ประการคือ
ประการที่1.   ต้องขจัดความเชื่อ 7:1
-พระเจ้าตรัสผ่านเอลีชาว่า พรุ่งนี้เวลานี้พระเจ้าจะทำการใหญ่ “กลับตาลปัตร ซึ่งมีความหมายว่า พลิกหน้ามือเป็นหลังมือ   พระเจ้า
 เปลี่ยนแปลงทำให้ทุกอย่างผลิกกลับไปในทางที่ดีขึ้น  พระเจ้ากอบกู้และช่วยชูกำลังชาวอิสราเอลให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น 
-แต่ 2พกษ
7:2 กล่าวว่า แม้ว่าพระเจ้าคือพระผู้สร้างโลกและฟ้าสวรรค์ สิ่งเหล่านี้ก็จะไม่มีทางเกิดขึ้นได้    ท่านเคยเห็นปัญหาเกิดในความคิด
 ของเราเองเหมือนทหารคนสนิทของพระราชาไหม
?      ความไม่เชื่อในการช่วยกู้ของพระเจ้านี่เป็นปัญหาของสาวกของพระเยซูด้วย พวกเขาก็
 ลืมไปว่าพระเยซูทรงเลี้ยงคน4พันคนด้วยขนมปัง5ก้อนกับปลา 2 ตัว    และพวกเขาก็วิตกกังวลใจเพราะความไม่มีอะไรจะทาน
-ในวันนี้ ท่านก็จงสลัดเอาความไม่เชื่อนั้นออกไป  มีหลายคนที่พระเจ้าเคยช่วย เคยทำการอัศจรรย์  เคยรักษาโรค เคยช่วยให้ผ่านไปใน
  เหตุการณ์ร้ายๆได้  แต่วันนี้กลับไม่เชื่อ     มัทธิว 17
:17. พระเยซูตรัสตอบว่า"โอคนในยุคที่ขาดความเชื่อและมีทิฐิชั่วเราจะต้องอยู่กับท่านทั้งหลายนานเท่าใดเราจะต้องอดทนเพราะท่านไปถึงไหนจงพาเด็กนั้นมาหาเราที่นี่เถิด"  

ประการที่ 2  ต้องก้าวออกไปโดยพระคุณและความเชื่อ 7:3
-“เราจะนั่งที่นี่จนตายทำไม    คนโรคเรื้อน4 คน แม้ในสายตาของเขาจะเป็นที่เกลียดชัง และน่าดูหมิ่น  ถูกแยกออกจากสังคม และเหมือน
 คนที่ไม่มีที่หวังใดๆ  แต่พวกเขาก็ มีมุมมองที่ดีในชีวิตว่า   การนั่งอยู่เฉยๆรอปาฏิหาริย์ก็คงไม่ดีแน่ๆ    
 ข้อคิด
:    การนั่งเฉยๆเพื่อรอการอัศจรรย์ และการเปลี่ยนแปลงจะไม่มีการอัศจรรย์ให้เห็น   คริสเตียนต้องมีมุมมองชีวิตในทางบวก มากกว่า
 ทางลบๆ    อย่าให้โอกาสความคิดลบๆเกิดขึ้นบ่อยๆ เพราะมันเกิดขึ้นเสมอๆ   หลายคนอยากได้รับการอวยพระพร แต่ก็ไม่ทำอะไร  นั่ง
 ขอทานและรอให้คนนั้นคนนี้ช่วยเป็นวันๆ  เราจะพบความว่างเปล่า    
-เมื่อเรากล้าที่จะก้าวไป  พระเจ้าก็กล้าที่จะทำการของพระองค์  ข้อ 6    ในยามดึกของวันนั้นพระเจ้าได้ก่อกวนให้ศัตรูคือซีเรียตกใจ
 และต่อสู้พวกเขา  ทำให้พวกเขาสำคัญว่ากำลังต่อสู้กับกองทัพใหญ่  จึงวิ่งหนีเอารอด ทิ้งเอาอาหาร อาวุธ และทรัพย์สินไว้    พระเจ้าได้
 ประทานชัยชนะ ความสำเร็จแก่คนที่ป่วยเป็นโรคเรื้อน 4 คนนั้นอย่างมหัศจรรย์ ฉันใด  
 คำหนุนใจ
:  ถ้าเราก้าวออกไปทำกิจการงานต่างๆโดยพระคุณ และการทรงนำของพระเจ้า  และด้วยการพึ่งพาการช่วยเหลือของพระเจ้าแล้ว เราจะเห็นการอัศจรรย์ของพระเจ้าเกิดขึ้นเพื่อเรา  เพื่อครอบครัว คริสตจักรของเรา  
-เป็นชัยชนะ และความสำเร็จที่ไม่ต้องสูญเสียชีวิต หรือเลือดแม้แต่หยดเดียว      สำคัญที่สุดคือ จงก้าวออกไปโดยมีพระเจ้านำหน้าทัพ ไปโดย
 ไว้วางใจในพระเจ้า  อย่าไว้วางใจในคน และจำนวนคน และจำนวนเงิน   หรืออย่าพึ่งสติปัญหาของตัวเอง  สภษ 3
:5-6   
-ชีวิตของเราอาจจะกำลังเผชิญกับการปิดล้อมไปด้วยปัญหา ความทุกข์ยากลำบากต่างๆ  จนเราเองก็งงๆ และสับสนว่ามันอะไรกันนี่ และเราอาจจะพยายามแก้ไขปัญหา และพึ่งกำลังของเราเองจนเราเหนื่อย   วันนี้ขอให้เรามอบทางเดินนั้น มอบธุรกิจของเรานั้นต่อพระเจ้า  ให้เราเปิดใจกับพระเจ้า   บอกถึงปัญหา ความทุกข์ใจนั้นต่อพระเจ้า      โดยพระเจ้าเราจะสามารถเดินผ่านความยากลำบากไปได้อย่างแน่นอน

ประการที่ 3 ต้องกลับไปบอกข่าวดีนี้  7:9-20
-ธรรมชาติของมนุษย์ดิบๆที่ยังไม่ได้รับการเปลี่ยนชีวิตใหม่  ทุกคนต่างก็รักตัวเอง ทำทุกอย่างเพื่อตนเองและเพื่อนพ้อง   แต่สำหรับคนของพระเจ้าที่ได้รับพระคุณพระเจ้าแล้ว  เขาจะมีลักษณะนิสัยที่เปลี่ยนแปลงใหม่  คือเขาจะรักและห่วงใยผู้อื่น  อยากให้คนอื่น  อยากให้เพื่อนๆได้รับโอกาส และการช่วยเหลือเหล่านี้  
- “ เราทำไม่ถูกเสียแล้ว”  วันนี้เป็นวันข่าวดี  ถ้าเรานั่งเสียโทษจะตกแก่เรา  เหมือนเปาโลที่ท่านรู้ว่า ถ้าท่านไม่ประกาศวิบัติจะเกิดขึ้นกับ ข้าพเจ้า  โรม 1
:16
-บางคนเชื่อก็ได้ชีวิต และคนที่ไม่เชื่อก็ต้องตาย   ข้อ 19     คนที่ไม่เชื่อแม้จะเกิดอัศจรรย์เท่าไรในชีวิต เขาก็ยังไม่เปิดใจเชื่อพระเจ้า  ให้ดูข้อ 19 นายทหารกล่าวว่า  แม้ว่าพระเจ้าคือพระผู้สร้างโลกและฟ้าสวรรค์ สิ่งเหล่านี้ก็จะไม่มีทางเกิดขึ้นได้      
พี่น้องที่รัก : ข่าวประเสริฐของพระเจ้านั้นเมื่อเราออกไปประกาศ  เราจะพบว่ามีคนกลุ่มหนึ่งเชื่อ และอีกกลุ่มไม่เชื่อ  สำหรับคนที่ไม่เชื่อนั้น แม้เราจะพูดอย่างไร และท้าทายเขาขนาดไหน ใจของเขาก็ไม่เปิดให้พระเจ้า  และเขาต้องได้รับผลตามความเชื่อของเขาเอง   วันนี้ขอให้เราทำหน้าที่ของเราเอง ที่จะช่วยกันทำงานของพระเจ้า รับใช้ ทำงานในบทบาทที่ตนพึ่งกระทำได้  ทำตามกำลังที่พระเจ้าให้    ให้เราปลูกจิตสำนึกไว้กับตัวเราเอง และลูกหลานของเราเอง  ในการที่จะรับผิดชอบตนต่อพระเจ้า 
วันนี้เราจะอิ่มกับพระพร และข่าวดีในพระเจ้า โดยไม่ยอมบอกให้ใครกระนั้นหรือ.....   

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น